วันจันทร์ที่ 2 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

เมื่อไหร่รถยนต์ไฟฟ้าจะมาแทนรถคันที่เราใช้

ดร. อดิสร เตือนตรานนท์

ปัจจุบันรถยนต์ไฟฟ้า อย่าง Tesla S ยังดูเหมือนเป็นสิค้าตลาดเฉพาะ หรือ Niche Product สำหรับหมู่คนรวยและผู้หลงไหลคลั่งไคล้ในเทคโนโลยีใหม่ๆ แต่ท่านรู้หรือไม่ว่าในอีกไม่เกิน 10 ปีข้างหน้า มันจะกลายเป็นเรื่องปกติที่จะขับรถยนต์ไฟฟ้า และแปลกประหลาดมากหากท่านยังขับรถยนต์เข้าไปเติมน้ำมันในสถานีบริการน้ำมัน

จากรายงานการศึกษษล่าสุดโดยนิตยสาร Nature Climate Change ล่าสุดปีนี้ ได้ทำการศึกษารายงานระหว่างปี 2007 ถึงปี 2014 จำนวนมากกว่า 80 ฉบับเกี่ยวกับราคาของแบตเตอรี่แบบลิเธียมไอออนที่นิยมใช้ในรถยนต์ไฟฟ้าอบ่าง Tesla และ Nissan พบว่าลดลงถึงร้อยละ 14 ต่อปี จากเมื่อปี ค.ศ. 2007 ที่แพงกว่า 1,000 เหรียญดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อ กิโลวัตต์ชั่วโมง (kWh)

ปัจจุบันราคาแบตเตอรี่รถยนต์นี้ถูกกว่า 300 ดอลลาร์ต่อกิโลวัตต์ชั่วโมง หรือประมาณ 10,000 บาทต่อกิโลวัตต์ชั่วโมงเท่านั้นเอง และคาดว่า ราคาที่ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าชั้นนำอย่าง Tesla ที่ไม่เปิดเผยในรายงานทั่วไปจะต่ำมากกว่านี้อีก ก่อนหน้านี้ก็มีการศึกษาว่า ถ้าราคาของแบตเตอรี่รถยนต์ต่ำกว่า 150 ดอลลาร์ต่อกิโลวัตต์ชั่วโมง หรือคิดคร่าวๆ ว่าถ้ารถยนต์ไฟฟ้าใช้แบตเตอรี่ 70 kWh ราคาแบตเตอรี่ก็จะตกประมาณ 350,000 บาท


มันจะทำให้จะเกิด Paradigm Shift หรือเกิดการเปลี่ยนแปลงวงการอุตสาหกรรมยานยนต์ไปเลย ทำให้ผู้คนหันมาใช้รถยนต์ไฟฟ้าเป็นส่วนใหญ่แทนรถยนต์ที่ใช้น้ำมัน เพราะนอกจากราคารถยนต์ที่ถูกลงเท่าราคารถยนต์ที่เคิมน้ำมันปกติแล้ว รถยนต์ไฟฟ้าจะวิ่งได้ไกลมากกว่า 400 กิโลเมตรต่อการชาร์จไฟฟ้าหนึ่งครั้งและค่าใช้จ่ายต่อครั้งเพียง 300 บาท ประหยัดมากกว่าเติมน้ำมันต่อถัง และนี้คือสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ราคาน้ำมันทั่วโลกดิ่งลงอย่างมากในช่วงหลายปีที่ผ่านมา นอกจากการค้นพบแหล่งน้ำมันมหาศาลทราสามารถสกัดได้จากทรายน้ำมัน


เรามาดูกันว่าสาเหตุที่ราคาแบตเตอรี่ต่ำลงมากทุกปี เนื่องจาก Economies of scale หรือการลดลงของต้นทุนต่อการผลิตจำนวนมาก ต่อไปนี้การผลิตแบตเตอรี่สำหรับรถยนต์ไฟฟ้ากำลังจะเป็นโรงงานขนาดใหญ่ อย่างเช่นที่ Tesla กำลังสร้างโรงงาน Gigafactory ที่มลรัฐเนวาด้า ที่จะแล้วเสร็จในอีกสองปีข้างหน้า ซึ่งจะมีกำลังผลิตแบตเตอรี่ได้มากกว่า 35 พันล้านวัตต์ชั่วโมง หรือGWh ต่อปี เพียงพอสำหรับใช้ในรถยนต์ไฟฟ้ามากกว่า 500,000 คันต่อปี แล้วถ้าถามถึงระยะเวลาที่ใช้ในการชาร์จไฟฟ้าแต่ละครั้ง ปกติถ้าชาร์จที่บ้าน จะได้ในอัตรา 100 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งชั่วโมง ใช้เวลาประมาณ 4 ชั่วโมง ยิ่งถ้าใช้แบบ supercharge จะใช้เวลาเพียง 30 นาที ต่อระยะทาง 270 กิโลเมตร หรือประมาณ 1 ชั่วโมงเพื่อชาร์จแบตเตอรี่จนเต็ม


นอกจากนี้ ถ้าเราทดสอบการชนทั้งด้านหน้าและด้านข้าง และการพลิกคว่ำ ปรากฎว่า รถยนต์ไฟฟ้ายังมีความปลอดภัยมากกว่ารถยนต์ทั่วไป เนื่องจากแบตเตอรี่วางเป็นฐานล่างของรถยนต์ ทำให้จุดศูนย์ถ่วงของรถยนต์ของต่ำมาก และมีกระโปรงหน้าและกระโปรงหลังที่ว่างเปล่า สามารถเก็บสัมภาระได้ กลายเป็นส่วนซับแรงกระแทกจากการชน ดังนั้น การขับรถยนต์ไฟฟ้าจะไม่ใช่ความฝันหรือของเล่นของเหล่าเศรษฐีอีกต่อไปในอีกไม่กี่ปีข้างหน้านี้

บทความโดย *ดร. อดิสร เตือนตรานนท์
ผู้อำนวยการ ศูนย์นวัตกรรมการพิมพ์อิเล็กทรอนิกส์และอิเล็กทรอนิกส์อินทรีย์
ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ
adisorn.tuantranont@nectec.or.th
- See more at: http://eureka.bangkokbiznews.com/detail/633798#sthash.OJkAgVOA.dpuf