พฤศจิกายน 27, 2019 | By Jen Namjatturas
แน่นอนว่า หากพูดถึงสถานที่ทำงานที่มีวัฒนธรรมองค์กรที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งในโลก Google น่าจะอยู่ในลิสต์ต้นๆ ของหลายคน อาจจะเคยเดินทางไปเยี่ยมหรือเคยเห็นภาพบรรยากาศการทำงานของ Google ผ่านตาบ้าง จะเห็นว่าไม่เหมือนสถานที่ทำงานทั่วไป แต่เหมือนสนามเด็กเล่นสำหรับผู้ใหญ่มากกว่า ซึ่งเคล็ดลับความสำเร็จของ Google นั้นมาจากวัฒนธรรมที่คนของเขาได้ร่วมกันสร้าง การหมั่นบริหารความสุข แพชชั่น และเติมความรู้ให้พนักงานอย่างสม่ำเสมอ คือสิ่งที่องค์กรนี้ให้ความสำคัญ มันอาจจะฟังดูเกินไปสำหรับบางคน แต่นี่ก็เป็นวิธีที่ Google ใช้ในการดูแลคนของพวกเขาเอง
หัวข้อ What’s the secret to the world’s most joyful place to work at? โดย คุณ Pim Suvitsakdanon, Head of Sales - Google Customer Solutions Google เป็นอีกหนึ่งเซสชั่นทีได้รับความสนใจอย่างล้นหลาม ในงาน Techsauce Culture Summit 2019 เรามาฟัง secret sauce ของ Google กัน ว่าสามารถสร้างสถานที่ทำงานที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งในโลกได้อย่างไร
คัดเลือกเมล็ดพันธุ์ที่ใช่
เป็นที่รู้กันว่าขั้นตอนการคัดคนเข้าทำงานของ Google นั้นหินสุดๆ เนื่องจากเมล็ดพันธุ์ความสำเร็จของ Google คือ ‘คน’ เริ่มต้นจากการคัดเลือกเมล็ดพันธุ์ที่ใช่
การจ้างคนทำงานที่ใช่และเหมาะสม หมายถึงการที่บริษัทต้องลงทุนในบุคคลนั้น ทั้งในแง่ทรัพยากร เวลา ไปจนถึงการสร้างความสำเร็จทั้งในระดับบริษัทและในระดับตัวบุคคล โดยผู้สมัครจะต้องมีคุณลักษณะ 4 ข้อดังนี้
Generate cognitive ability: Google ไม่ได้มองหาคนที่ตอบคำถามได้ถูกต้องที่สุด แต่คือคนที่มีความสามารถในการแสดงกระบวนการคิด มีวิธีการหาคำตอบที่น่าสนใจ และสามารถหาโซลูชั่นออกมาได้
Role related knowledge: Google ไม่ได้มองหาคนที่มีประสบการณ์ในสายงานนั้นโดยตรง แต่คือความสามารถในการเรียนรู้ ความทะเยอทะยานในบทบาทที่ได้รับ ความกระหายที่จะเรียนรู้ตลอดเวลา ความถ่อมตน การมี Growth mindet ความเชื่อว่าทุกสิ่งสามารถเรียนรู้ได้ และสามารถถ่ายทอดทักษะที่มีมาใช้ในบทบาทที่ได้รับมอบหมาย
Leadership: ไม่จำเป็นว่าคนนั้นจะต้องเป็นหัวหน้า แต่คือการมีภาวะความเป็นผู้นำ ที่รู้ว่าเมื่อใดควรจะก้าวไปข้างหน้าเพื่อนำคนอื่น หรือถอยกลับมาเมื่อจำเป็น เพื่อเปิดโอกาสให้คนอื่นได้มีบทบาทบ้าง นี่คือการที่ทุกคนได้มีบทบาทในการทำงานเป็นทีม
Googleyness: คนๆ นั้นไม่จำเป็นต้องปรับตัวเพื่อให้เข้ากับวัฒนธรรมของ Google แบบ 100 เปอร์เซ็นต์ แต่คนนั้นจะประสบความสำเร็จและทำงานได้มีประสิทธิภาพในวัฒนธรรมของ Google หรือไม่ คนนั้นจะต้องให้ความสำคัญกับฟีดแบค กล้าท้าทายต่อ status quo รับผิดชอบต่อโอกาสที่ได้รับ ทำในสิ่งที่ถูกต้อง และพร้อมที่จะออกจากคอมฟอร์ตโซน
โดยผู้สมัครจะต้องผ่านการสัมภาษณ์ถึง 4-6 ครั้ง และในทุกครั้ง กรรมการจะต้องเห็นพ้องต้องกันทั้งหมด ไม่เช่นนั้นจะต้องเริ่มใหม่ตั้งแต่ต้น
แล้วองค์กรคุณล่ะ อะไรคือคุณลักษณะที่พนักงานต้องมีบ้าง?
‘Hungry but humble’ กระหายที่จะเรียนรู้ มีความอ่อนน้อมถ่อมตน มีความทะเยอทะยานในบทบาทที่ได้รับ และมี Growth mindset
สร้างวัฒนธรรมบ่มเพาะเมล็ดพันธุ์ให้เติบใหญ่
'คน' คือเรื่องที่ Google ให้ความสำคัญ ในการที่เมล็ดพันธุ์นั้นจะเติบใหญ่ผลิดอกออกผล จึงมีความจำเป็นจะต้องมีดินและสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการเติบโตและการหมั่นดูแล
คุณ Pim ได้ยกตัวอย่างสวัสดิการของพนักงาน ทั้งอาหาร คลาสเรียน ฟิตเนส เข้าร่วมอบรม ไปจนถึงฟังบรรยายจากผู้นำทางความคิดระดับโลก การหมั่นบริหารความสุข แพชชั่น และความรู้ของพนักงานอย่างสม่ำเสมอ ก็เพื่อที่พวกเขาจะสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ดินที่ดีคือวัฒนธรรมที่คน Google ได้สร้างขึ้นเพื่อเอื้อต่อการเติบโตของกันและกัน
และในการที่จะบ่มเพาะเมล็ดพันธุ์ให้เติบใหญ่เป็นต้นไม้ที่แข็งแรงได้นั้น ต้องอาศัยการให้โอกาสในการเรียนรู้และการพัฒนา
ส่งเสริมวัฒนธรรมการเรียนรู้
การเปลี่ยนแปลงเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ คือสิ่งเดียวในชีวิตที่แน่นอน
ในการที่จะทันต่อความเปลี่ยนแปลงในโลกที่ไม่มีอะไรแน่นอนเช่นทุกวันนี้ จึงเป็นความจำเป็นที่คน Google จะต้องมีความกระหายที่จะเรียนรู้สิ่งใหม่ตลอดเวลา อย่างการให้พนักงานได้พัฒนาทักษะอย่าง Leadership training, People management, Onboarding, Skills training, School of leaders และเมื่อพนักงานเชี่ยวชาญในเรื่องใดเรื่องหนึ่งแล้ว พวกเขาก็อยากที่จะส่งต่อความรู้นั้นให้เพื่อนร่วมงานคนอื่นด้วยเช่นกัน ผ่าน Learning program อย่าง g2g (Googler-to-Googler)
เฉลิมฉลองความล้มเหลว
ความล้มเหลวคือส่วนหนึ่งของชีวิต ที่เปิดโอกาสให้เราได้เรียนรู้และเติบโต
Google ภาคภูมิใจในการเฉลิมฉลองวัฒนธรรมนี้ เพราะความล้มเหลวให้โอกาสในการคิดค้นโซลูชั่นที่ดีกว่า เสริมสร้างการเกิดนวัตกรรม ผลิตภัณฑ์ที่ Google ได้เปิดตัว และล้มเหลวนั้นก็ไม่น้อย อย่างเช่น Google Glass ที่หลายคนอาจจะทราบกัน
ถอดเคล็ดลับความสำเร็จของ Google ในการทำ Change Management เพื่อเปลี่ยนวัฒนธรรมในองค์กรและคน
Fail And I Learn
เมื่อใดล้มเหลว จะให้พนักงานตั้งคำถามว่า
พวกเขาได้เรียนรู้อะไรจากความผิดพลาดครั้งนั้น?
เกิดอะไรขึ้นกับกระบวนการตัดสินใจในครั้งนั้น?
ในครั้งต่อไปพวกเขาสามารถทำอะไรเพื่อให้มันดีขึ้นได้บ้าง?
ยกตัวอย่างหากพนักงานลาออก พวกเขาจะตั้งคำถามว่าสามารถทำอะไรได้ดีกว่าเดิม เป็นการสร้างความแน่ใจว่าคนที่มาใหม่จะเข้าใจบทบาทของตัวเองดีพอ เพื่อที่จะประสบความสำเร็จในระยะยาว
ผืนป่าจะอุดมสมบูรณ์ได้ด้วยพันธ์ุไม้ที่หลากหลาย
และเมื่อต้นไม้ต้นนั้นเติบใหญ่ท่ามกลางผืนป่า ในการที่ผืนป่าจะอุดมสมบูรณ์และสวยงามได้นั้น ไม่ได้ประกอบด้วยต้นไม้สายพันธุ์เดียว แต่ด้วยพันธ์ุไม้ที่หลากหลาย ต้นไม้แต่ละต้นก็มีบทบาท หน้าที่ เป้าหมายของมัน และนี่คือเหตุผลที่ Google ได้สร้างสถานที่ทำงานที่เต็มไปด้วยความหลากหลายไว้ด้วยกัน
ความหลากหลายเป็นสิ่งสำคัญและจำเป็น ที่จะนำความสำเร็จมาสู่บริษัท เมื่อพนักงานมีความรู้และภูมิหลังที่หลากหลาย ก็จะสามารถนำเสนอโซลูชั่นและนวัตกรรมที่ดีกว่า
และเมื่อพวกเขามีความหลากหลาย ก็จำเป็นที่จะต้องสร้างวัฒนธรรมที่เต็มไปด้วยความแตกต่าง ซึ่งก็คือความเสมอภาค (Equity) และความเท่าเทียม (Equality) ที่ทุกคนจะสามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างมีความสุข
คุณ Pim ได้ยกตัวอย่าง ลิฟต์ที่ Google ที่จะเคลื่อนที่ช้ามาก เหตุผลก็เพราะพวกเขาสร้างลิฟต์โดยคิดถึงคนที่ใช้วีลแชร์ด้วยเช่นกัน
การที่ผืนป่าจะอุดมสมบูรณ์ได้นั้นไม่ได้เกิดจากต้นไม้เพียงต้นเดียว แต่คือความหลากหลายที่ทำให้ผืนป่านั้นอุดมสมบูรณ์ และต้นไม้แต่ละต้นก็ต้องการการดูแลเอาใจใส่ ด้วยดินและสภาพแวดล้อมที่ดี เพื่อที่จะได้โตเป็นต้นไม้ใหญ่ที่แข็งแกร่ง สามารถผลิดออกออกผล บรรลุศักยภาพของมันอย่างเต็มที่ และทั้งหมดนี้ก็เริ่มจากการเลือกเมล็ดพันธุ์ที่ใช่
เพราะทุกคนล้วนมีความพิเศษในตัวเอง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น